
ตัวแทนความสวยพรีเมียมและยั่งยืน หนังวีแกน (Vegan) คืออะไร? เหมาะกับงานประเภทใด? และทำไมถึงเป็นทางเลือกใหม่แทนหนังแท้ ?
รู้หรือไม่? วัสดุที่ดูหรูหรา เหมือนหนังแท้ในกระเป๋าใบโปรด โซฟาตัวเก่ง หรือเบาะในรถยนต์สุดหรูของคุณ อาจไม่ใช่ “หนังสัตว์” แบบที่เราคิด….
ในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความยั่งยืน (Sustainability) ความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม และจริยธรรมในการบริโภค หนึ่งในวัสดุทางเลือกที่ตอบโจทย์อย่าง “หนังวีแกน (Vegan)” ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจนกลายเป็นหนึ่งในวัสดุที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในอุตสาหกรรมแฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ และการออกแบบผลิตภัณฑ์
บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกเกี่ยวกับหนังวีแกน (Vegan) ให้มากขึ้นกันว่า หนังวีแกนคืออะไร เหมาะกับการใช้งานด้านใดบ้าง และเหตุใดจึงกลายเป็นทางเลือกที่มาแรงแทนที่หนังแท้ในปัจจุบัน
หนังวีแกนคืออะไร?
หนังวีแกน (Vegan) คือ วัสดุที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อเลียนแบบคุณสมบัติของหนังแท้ ซึ่งไม่ใช้ส่วนประกอบใด ๆ จากสัตว์ โดยมีวัตถุดิบหลักได้จากทั้งพืช ธรรมชาติ และพลาสติกสังเคราะห์บางชนิด ซึ่งผลิตขึ้นมาเพื่อเลียนแบบรูปลักษณ์และสัมผัสของหนังสัตว์ให้ใกล้เคียงที่สุด ดังนั้น หนังวีแกน (Vegan) จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการผลิตภัณฑ์ “ปราศจากการเบียดเบียนสัตว์” (Cruelty-Free)
โดยทั่วไป หนังวีแกน (Vegan) แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่
- หนังวีแกนจากวัสดุสังเคราะห์ (Synthetic Vegan Leather)
วัสดุประเภทนี้เป็นหนังเทียมที่ผลิตจากโพลีไวนิลคลอไรด์ (PVC) หรือโพลียูรีเทน (PU) ซึ่งผ่านกระบวนการเคลือบพื้นผิวด้วยเรซิ่นหรือพลาสติกเพื่อให้ได้ลวดลาย และพื้นผิวที่คล้ายกับหนังสัตว์ เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน เพราะมีลักษณะใกล้เคียงหนังแท้ ทั้งสัมผัส ความยืดหยุ่น และความเงางาม อีกทั้งยังราคาถูกกว่าหนังแท้มาก
- หนังวีแกนจากพืช (Plant-based Vegan Leather)
เป็นนวัตกรรมใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยใช้วัตถุดิบจากพืช เช่น เส้นใยสับปะรด (Piñatex), เห็ด (Mylo Mushroom Leather), ใบตอง, ใบตาล, เปลือกแอปเปิล, ข้าวโพด และ กระบองเพชร ไปจนถึงของเหลือจากเกษตรกรรม
เรียกได้ว่ามาแรงมากในยุคนี้ ที่คนหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นวัสดุที่ย่อยสลายได้ ช่วยลดการใช้พลาสติก และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่อย่างไรก็ตาม วัสดุนี้ยังต้องเผชิญกับความท้าทาย เพราะมีราคาสูงกว่าหนังสังเคราะห์ PU/PVC/Microfiber, และทนทานน้อยกว่าหนังแท้บางประเภท
หนังวีแกน (Vegan) เหมาะกับงานประเภทใดบ้าง?
หนังวีแกน (Vegan) มีความยืดหยุ่นและสามารถประยุกต์ใช้ได้หลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ ไปจนถึงการตกแต่งภายใน และอุตสาหกรรมยานยนต์
- อุตสาหกรรมแฟชั่น
แบรนด์แฟชั่นชั้นนำมากมายหันมาใช้หนังวีแกน (Vegan) ในการผลิตสินค้า เช่น แจ็คเก็ต กระโปรง กางเกง รองเท้า กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าเดินทาง ด้วยเหตุผลของแบรนด์ที่ต้องการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ต้องการสนับสนุนแบรนด์ Ethical & Sustainable อีกทั้งหนังวีแกน (Vegan) ยังสามารถผลิตสีสัน และลวดลายได้หลากหลาย สวยงามไม่แพ้หนังแท้ และยังต้นทุนต่ำกว่าอีกด้วย
ตัวอย่างเช่น
Stella McCartney ผู้บุกเบิกแฟชั่นวีแกนระดับไฮเอนด์ เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์แรกที่ยืนหยัดในหลักการ “ไม่ใช้หนังแท้และขนสัตว์” ตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์จนถึงปัจจุบัน โดยมีการใช้วัสดุหนังวีแกน (Vegan) คุณภาพสูงในผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า รองเท้า หรือแจ็คเก็ตหนัง จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำด้านแฟชั่นยั่งยืนระดับโลก

- เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน
โซฟา เบาะเก้าอี้ และของตกแต่งภายในบ้านที่ใช้หนังวีแกน (Vegan) กำลังได้รับความนิยม เพราะดูแลรักษาง่ายและไม่แพ้ง่ายเหมือนหนังแท้ เพราะความทนทานสูง กันน้ำ เช็ดทำความสะอาดง่าย อีกทั้งยังเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับบ้านที่มีเด็กหรือสัตว์เลี้ยง
ตัวอย่างเช่น
IKEA แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่มุ่งมั่นเรื่องความยั่งยืน โดยแบรนด์ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัสดุหนังสังเคราะห์ (PU Leather) และหนังวีแกน (Vegan) ในโซฟา เก้าอี้ และของตกแต่งบ้านต่าง ๆ เช่น รุ่น LANDSKRONA และ KIVIK ซึ่งมีตัวเลือกวัสดุที่ไม่ใช้หนังแท้ ที่ให้ดีไซน์สแกนดิเนเวียน เรียบง่าย ทันสมัย และราคาเข้าถึงได้
อ่านบทความเพิ่มเติมเรื่อง เปิดตำนานโซฟา Chesterfield: สุนทรียะแห่งดีไซน์เหนือกาลเวลา

- อุตสาหกรรมยานยนต์
เรามักเห็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อย่าง Tesla, BMW, Mercedes-Benz เริ่มหันมาใช้หนังวีแกน (Vegan) ในห้องโดยสารของรถรุ่นใหม่ ๆ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องจริยธรรมและสิ่งแวดล้อม อีกทั้ง คุณสมบัติที่ทนต่ออุณหภูมิสูง-ต่ำ และรังสี UV ได้ดี ช่วยลดต้นทุนการผลิตในระยะยาว และสามารถควบคุมมาตรฐานได้ดีกว่าหนังแท้
ตัวอย่างเช่น
Tesla ผู้นำรถยนต์ไฟฟ้าที่ใส่ใจโลก เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่ประกาศ “ยกเลิกการใช้หนังแท้” และหันมาใช้หนังวีแกน (Vegan) ภายในห้องโดยสารของรถยนต์ทุกรุ่น ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา ช่วยตอบโจทย์ลูกค้าสาย Ethical & Sustainable Lifestyle ได้ดีเยี่ยม
- เครื่องประดับ และผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์
นาฬิกาสายหนัง เคสโทรศัพท์ สมุดโน้ต พวงกุญแจ ฯลฯ ที่ทำจากหนังวีแกน (Vegan) กลายเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ใส่ใจโลก และมองถึง “ความปลอดภัยและการมีจริยธรรม” อีกทั้งยังเป็นความหรูหราสวยงาม ในราคาที่เข้าถึงได้
ตัวอย่างเช่น
Matt & Nat ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์สุดเรียบหรู แสดงจุดยืนชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นไม่ใช้หนังแท้เลย แต่ Matt & Nat ผลิตกระเป๋า รองเท้า และแอคเซสซอรี่ หนังวีแกน (Vegan) ชนิด PVC/PU จากวัสดุรีไซเคิล สูงสุดกว่า 90% จากขวดพลาสติกและยางในรถจักรยาน
ดังนั้น การที่หลายอุตสาหกรรม หรือแบรนด์ระดับโลกมากมาย เลือกใช้หนังวีแกน (Vegan) เป็นวัสดุหลักในผลิตภัณฑ์ของตน จึงไม่ได้เป็นแค่เพียง “ทางเลือกเชิงจริยธรรม” อีกต่อไป แต่มันยังกลายเป็นยุทธศาสตร์เชิงธุรกิจ ที่สะท้อนวิสัยทัศน์ของแบรนด์ได้อีกด้วยว่า พวกเขากำลังมุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืน สร้างนวัตกรรม และตอบโจทย์ผู้บริโภคในศตวรรษที่ 21 อย่างแท้จริง
ทำไมหนังวีแกนจึงกลายเป็นทางเลือกใหม่แทนหนังแท้?
การที่หนังวีแกน (Vegan) ถูกพูดถึงมากขึ้น ไม่ใช่เพียงเพราะ “แฟชั่น” หรือ “กระแส” แต่เกิดจากเหตุผลหลายประการที่มีน้ำหนัก และตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ดังนี้
- ด้านจริยธรรม “ ไม่สนับสนุนการทารุณสัตว์”
อุตสาหกรรมหนังแท้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาก เพราะมีการฆ่าสัตว์นับพันล้านตัวต่อปีเพื่อผลิตหนังแท้ ไม่ว่าจะเป็นวัว หมู หรือจระเข้ ดังนั้น หนังวีแกน (Vegan) จึงเข้ามาเป็นทางเลือกที่ช่วยลดการใช้ชีวิตสัตว์ในการผลิตสินค้าแฟชั่น และของใช้ประจำวัน
- ด้านสิ่งแวดล้อม “ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม”
หนังแท้ต้องผ่านกระบวนการฟอกหนัง ซึ่งมีการใช้สารเคมีที่อันตราย และก่อให้เกิดน้ำเสีย ในขณะที่หนังวีแกน (Vegan) สามารถผลิตได้อย่างยั่งยืน และในบางกรณียังใช้ของเหลือจากเกษตรกรรม จึงเป็นการรีไซเคิลให้เกิดประโยชน์ขึ้นไปอีก
- ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม “ความก้าวหน้าที่มาพร้อมความยั่งยื่น”
หนังวีแกน (Vegan) พัฒนาไปไกลกว่าหนังเทียมในอดีต ด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต ที่สามารถทำให้ผิวสัมผัส ความทนทาน และความยืดหยุ่นใกล้เคียงกับหนังแท้
- ด้านสุขภาพและความปลอดภัย “ใส่ใจการใช้ชีวิตที่ปลอดภัย”
บางคนแพ้สารเคมีจากกระบวนการฟอกหนังแท้ หรือไม่ต้องการสัมผัสกับสารตกค้างจากหนังแท้ ดังนั้น หนังวีแกน (Vegan) โดยเฉพาะชนิดจากพืช สามารถลดความเสี่ยงนี้ลงไปได้มาก
- ด้านความสวยงามและดีไซน์ “หลุดกรอบการดีไซน์ความสวยแบบเดิม”
หนังวีแกน (Vegan) มีความหลากหลายมากในการผลิต สามารถทำให้มีผิวเรียบ ผิวด้าน ผิวมัน หรือพิมพ์ลายได้ง่ายกว่า จึงเป็นวัสดุในฝันของนักออกแบบ และสถาปนิกยุคใหม่ เพราะสามารถนำไปสร้างสรรค์ผลงานได้หลากหลาย
จึงสรุปได้ว่า หนังวีแกน (Vegan) ไม่ใช่เพียงแค่ “เทรนด์” ที่ผ่านมาแล้วผ่านไป แต่เป็นผลลัพธ์ของความเปลี่ยนแปลงระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริยธรรม สิ่งแวดล้อม หรือเทคโนโลยีการผลิต โดยวัสดุนี้กำลังสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมที่เคยพึ่งพาหนังแท้มาเป็นเวลานาน ซึ่งในอนาคต หนังวีแกน (Vegan) อาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับทั้งวงการแฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ และยานยนต์ หากผู้ผลิตและผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการเลือกวัสดุอย่างยั่งยืนมากขึ้น
หากคุณกำลังมองหาทางเลือกที่ดีต่อสัตว์ สิ่งแวดล้อม และตัวคุณเอง หนังวีแกน (Vegan) เป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม Leather Warehouse ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายหนังคุณภาพ โดยเฉพาะหนังวีแกน (Synthetic Vegan Leather) เราพร้อมส่งมอบวัสดุระดับพรีเมียมที่โดดเด่นทั้งด้านรูปลักษณ์ ฟังก์ชัน และตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ มาเริ่มต้นยกระดับผลงานของคุณไปอีกขั้นของความสวยงาม อ่านรายละเอียด หนังวีแกน (Vegan) เพิ่มเติม
วัสดุระดับพรีเมียมที่โดดเด่นทั้งด้านรูปลักษณ์ ฟังก์ชัน และตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่
ที่ Leather Warehouse เราคัดสรรวัสดุที่สวยพรีเมียม และยั่งยืน เหมาะกับงานออกแบบทุกประเภท
Vegan Nappa
ให้สัมผัสนุ่มละมุน ใกล้เคียงหนังแท้ แต่ไม่ใช้ส่วนประกอบจากสัตว์ ทำความสะอาดง่าย ทนรอยขีดข่วน เหมาะกับผู้ที่ใส่ใจทั้งสไตล์และจริยธรรม
Leather Warehouse
วัสดุแห่งอนาคต เพื่อความยั่งยืนและความหรูหรา ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่แห่งการออกแบบ
Leather Warehouse พร้อมให้คำปรึกษาและจัดหาวัสดุที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ฟังก์ชัน ดีไซน์ และความยั่งยืน
#Leatherwarehouse #VeganNappaLeather #LeatherWarehouse #วีแกน #หนังวีแกน #Vegan
